การเทคอนกรีต

การเทคอนกรีตช่วงหน้าฝน

ปัญหาที่พบบ่อยในงานก่อสร้างช่วงฤดูฝน คือการที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าวันไหนฝนจะตก หรือถ้าตกจะตกตอนไหนเวลาไหน หากเราเข้าใจ และรู้วิธีการรับมือได้อย่างถูกวิธี ปัญหาดังกล่าวก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานและคุณภาพของคอนกรีตมากนัก ดังนั้นหน้างานควรเตรียมการป้องกันให้ได้มากที่สุด

การเทคอนกรีต

หน้างานที่ผสมคอนกรีตใช้เอง

ให้ดูแลพื้นที่ที่ใช้จัดเก็บวัสดุปูนซีเมนต์ให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้น้ำฝนสาด หรือกระเด็นเข้ามาได้ ควรใช้ผ้าใบกันฝนคลุมทั้งปูนซีเมนต์ หิน และทราย เพื่อป้องกันความชื้นจากน้ำ เมื่อต้องนำมาผสมอาจทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานลดลง

วางแผนเตรียมการก่อนเท

ก่อนทำการเทคอนกรีต ควรตรวจเช็คความแข็งแรงของท่อส่งคอนกรีต ตรวจเช็คแบบคาน แบบพื้น แบบเสา ที่ ต้องการเทให้เรียบร้อย รวมถึงวางแผนการเท เช่น เทจากซ้ายไปขวา หรือเทถอยหลัง

การเทคอนกรีตในหน้าฝนควรเตรียมผ้าใบในปริมาณที่สามารถคลุมได้อย่างทั่วถึง สำรองปูนซีเมนต์ และทราย ไว้จำนวนหนึ่งเพื่อซ่อมแซมผิวหน้าคอนกรีตที่อาจได้รับความเสียหายจากน้ำฝนด้วย

หากฝนกำลังจะตกก่อนเริมเทคอนกรีต

กรณีที่หน้างานเป็นพื้นที่โล่งกลางแจ้ง ไม่มีหลังคาปกคลุม ควรชะลอการเทคอนกรีตออกไปก่อน และรีบโทรแจ้ง ขอเลื่อนเวลาจัดส่งคอนกรีตออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาต่อคุณภาพของคอนกรีต

หากฝนตกระหว่างเทคอนกรีตหรือเพิ่งเทเสร็จใหม่ ๆ

ให้รีบโกยเนื้อคอนกรีตให้เต็มแบบ และปาดผิวหน้าให้เรียบ เสร็จแล้วคลุมด้วยผ้าใบหรือพลาสติกปกคลุมที่ผิวหน้าคอนกรีต เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของคอนกรีตที่เทไปแล้ว หลังจากที่ฝนหยุดตกแล้ว ถ้าหากมีน้ำฝนอยู่บนผิวหน้าคอนกรีตในปริมาณน้อยมากก็สามารถรอให้ระเหยไปเองได้ แต่ถ้าหากมีน้ำขังปริมาณมากก็ควรรีบปาดน้ำในบริเวณนั้นออกไป แล้วค่อยขัดแต่งผิวคอนกรีตตามปกติ

หากฝนตกหลังเทคอนกรีตเสร็จแล้ว (ประมาณ 6 – 12 ชั่วโมง)

ปลอดภัย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพคอนกรีตเล็กน้อย (ขึ้นอยู่กับสภาพหน้างาน)

สำหรับหน้างานที่คอนกรีตเซ็ตตัวหรือแข็งตัวเต็มที่แล้ว สามารถปล่อยให้น้ำฝนตกลงสู่พื้น หรือขังอยู่บนพื้น คอนกรีตได้โดยที่ไม่ต้องคลุมผ้าใบหรือพลาสติก เพราะน้ำฝนจะไม่สามารถชะล้างผิวหน้าคอนกรีต หรือเข้าไปทำให้สัดส่วนผสมของคอนกรีตผิดเพี้ยนจากที่ออกแบบเอาไว้ได้แล้ว

การที่ปล่อยให้มีน้ำฝนขังอยู่ที่ผิวหน้าคอนกรีต จะมีข้อดีต่อคอนกรีต (ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ประมาณ 12 ชั่วโมงขึ้นไป) เป็นการช่วยบ่มความชื้นให้กับคอนกรีต เพราะน้ำจะค่อย ๆ ซึมเข้าไปทำปฏิกิริยากับคอนกรีต ช่วยพัฒนากำลังอัดของคอนกรีตให้เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ และยังช่วยลดโอกาสการแตกร้าวที่ผิวหน้าคอนกรีตได้ด้วย